อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
อุทยานแห่งชาติไทรโยค มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสน้ำตกไทรโยค และได้ลงสรงน้ำในธารน้ำอันเย็นฉ่ำภายใต้ร่มเงาแห่งแมกไม้ของป่าใหญ่ และเป็นแรงบันดาลใจให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ทรงประพันธ์บทเพลง “เขมรไทรโยค” จนความงามของน้ำตกไทรโยคเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว
น้ำตกไทรโยค เป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย แยกเป็น 2 แพร่ง ส่วนที่อยู่ทางตอนเหนือเรียกว่า น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว รองรับด้วยชั้นหินสลับกันเป็นชั้นๆ มีความสูงประมาณ 8 เมตร ทางด้านใต้เป็นน้ำตกที่มีความสูงมากกว่าเรียกว่า น้ำตกไทรโยคเล็ก สายน้ำที่พุ่งตกลงมากระเซ็นสู่ลำแควน้อย สามารถชมทัศนียภาพของน้ำตกไทรโยคได้โดยการเดินข้ามสะพานแขวนไปยังฝั่งตรงข้ามหรือโดยทางน้ำ ในฤดูหนาวจะสัมผัสบรรยากาศของความหนาวเย็นแห่งสายน้ำและขุนเขา ผ่านน้ำตกมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหลยิ่งขึ้น
น้ำตกไทรโยคน้อย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้ชื่อว่าน้ำตกเขาพัง เพราะเกิดบนหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมา จนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง ภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด ในลำธารมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นับเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ไปสัมผัสอีกแห่งหนึ่ง การเดินทางสะดวกมากเพราะอยู่ติดกับถนนสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร จากจังหวัดกาญจนบุรี หรือทางรถไฟ เริ่มต้นจากสถานีธนบุรีไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวน้ำตก ประมาณ 1 กิโลเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวน้ำตก คือ ฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่น้ำในน้ำตกมีมาก ประมาณเดือนกรกฎาคม - กันยายน
แม่น้ำแควน้อย มีต้นกำเนิดจากผืนป่าดงดิบทางตะวันตกตามแนวชายแดนไทย-พม่า แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำแควใหญ่เป็นแม่น้ำแม่กลองที่ตัวเมืองกาญจนบุรี ริมสองฝั่งแม่น้ำแควน้อยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคมีธรรมชาติที่งดงาม มีโขดเขาเกาะแก่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ร่องน้ำที่ลัดเลาะไปตามซอกเขาหินปูน ความแตกต่างของพื้นที่เลาะเกาะแก่งเป็นเหตุให้แม่น้ำสายนี้ไหลเชี่ยวและวกวน บางตอนจะเป็นหาดทรายยื่นออกมาในลำน้ำ เป็นที่ชื่นชอบของผู้นิยมล่องแพโดยทั่วไป
ถ้ำดาวดึงส์ อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทย.2 (ถ้ำดาวดึงส์) เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ค้นพบโดย นายสำลี คูหา ซึ่งตามสัตว์เข้าไปในถ้ำ ในปี พ.ศ. 2515 ถ้ำลึกประมาณ 300-400 เมตร แบ่งเป็นห้องๆ ได้ 8 ห้อง มีชื่อตามลักษณะของหินงอกหินย้อย โดยทั่วไปมีสีขาว เช่น ห้องโคมระย้า ห้องเจดีย์ ห้องจีบม่านฟ้า เป็นต้น
ถ้ำละว้า อยู่ห่างจากน้ำตกไทรโยคไปทางตอนใต้โดยทางน้ำ ประมาณ 20 กิโลเมตร ถึงท่าเรือซึ่งจะมีถนนไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทย.3 (ถ้ำละว้า) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นถ้ำ หรืออาจเดินทางโดยทางรถยนต์ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงกิโลเมตรที่ 59 - 60 ถ้ำละว้ามีปากถ้ำแคบ แต่ภายในกว้างใหญ่โตมาก ถ้ำลึกประมาณ 450 เมตร แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องท้องพระโรง ห้องดนตรี และห้องม่าน แต่ละห้องมีหินงอก หินย้อย สวยงามแตกต่างกันไป นอกจากนี้ภายในถ้ำยังปรากฏหลักฐาน เช่น ฟันมนุษย์ ซึ่งทำให้สันนิษฐานได้ว่า แต่เดิมน่าจะเคยมีมนุษย์โบราณอาศัยอยู่
ถ้ำแก้ว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 500 เมตร เป็นถ้ำขนาดเล็ก ยาวประมาณ 200 เมตร มีหินงอกหินย้อยงดงามพอสมควร ปากทางเข้าเป็นหลืบหืนที่แคบมากต้องสอดตัวเข้าไปตามซอกหินเป็นระยะทางประมาณ 12 เมตร จึงพบห้องโถงแรก ภายในถ้ำมีห้องโถง 2-3 ห้อง และห้องหนึ่งมีบ่อน้ำผุดปรากฏอยู่
เรือ จากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ลงเรือที่ท่าเรือ จะมีเรือหางให้เช่าเหมาลำ เดินทางไปตามลำน้ำแควน้อย จนถึงน้ำตกไทรโยค หรือจากสถานีรถไฟสามารถต่อเรือที่ท่าเรือปากแซง บ้านท่าเสา อำเภอไทรโยค ต่อไปยังน้ำตกไทรโยคได้อีกทางหนึ่ง
รถไฟ จากสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ไปยังสถานีน้ำตก (ไทรโยคน้อย) จากนั้นสามารถเหมารถสองแถวเล็กต่อไปอีก 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 97 เลี้ยวซ้ายเข้าน้ำตก 3 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศและธรรมดา จากสถานีขนส่งสายใต้-กรุงเทพฯ ลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ต่อด้วยรถโดยสารประจำทางสายทองผาภูมิ ถึงปากทางเข้าอุทยานฯ แล้วต่อด้วยรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างเข้าไปยังน้ำตกไทรโยคอีก 3 กิโลเมตร