กิจกรรม เที่ยว ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว จ.สระบุรี แผนที่

กิจกรรม เที่ยว ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว จ.สระบุรี แผนที่
  "จองง่าย ไม่ผ่านใคร"
Thailand Travel
ณดลสตรีมไซด์ ไทยวิลล่า
Ndol Streamside ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 25 กม. สามารถขับรถ 1 ชั่วโม ...
มวกเหล็ก เฮลท์ สปา รีสอร์ท
บรรยากาศของธรรมชาติอันสงบ ร่มรื่น รีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่รับแขกผู้สูงอายุและแขกที่ ...
บ้านดารา รีสอร์ท
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้บริการผู้เข้าพัก เช่น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สา ...
เดอะ บูดา รีสอร์ท
รีสอร์ทสไตล์ใหม่ ที่สร้างสรรค์บ้านทุกหลังด้วยจินตนาการ จากรีสอร์ทสามารถเดินทางไป ...
บ้านสวนสวย รีสอร์ท
บรรยากาศแห่งการพักผ่อนสไตส์รีสอร์ท เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพมหานครสู่ความสง ...
แม่น้ำป่าสัก เบญจสุทธิคงคา
แม่น้ำป่าสักเบญจสุทธิคงคาเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวี ...
วัดพะเยาว์
วัดพะเยาว์ เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำป่าสัก หมู่ 1 ตำบลศา ...
สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค)
แนะนำให้ไปเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ...
เสาร้องไห้ วัดสูง
เสาร้องไห้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญแห่งหนึ่ง เป็นเสาไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ โด ...
เจดีย์พระคุณแม่
เจดีย์พระคุณแม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เป็นเจดีย์รูปทรงคล้ายพระ ...
Rating : 9/10
6796
ช่วงเวลา :
มกราคม - ธันวาคม ของทุกปี
โทรศัพท์ :
089 901 7558, 086 106 6158
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
 เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
เที่ยว วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี

วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาทห่างจากตัวเมืองจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายก่อนถึงอำเภอพระพุทธบาทเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร

เที่ยวชม วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร สระบุรี

วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาทห่างจากตัวเมืองจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายก่อนถึงอำเภอพระพุทธบาทเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2167 ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ปูชนียสถานที่สำคัญคือ "รอยพระพุทธบาท" ที่ประทับไว้บนแผ่นดินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี รอยพระพุทธบาทมีความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระพุทธบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราว ครอบรอยพระพุทธบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลาย สมัย และยังพบรอยจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ที่ก้อนหินขนาดใหญ่ สูงจากพื้น 160 เซนติเมตร เมื่อครั้นเสด็จ นมัสการรอยพระพุทธบาท

ลักษณะของพระมณฑป เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบ สีเขียว มีซุ้มบันแถลงประดับทุกชั้น มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง ปิดทองประดับกระจกโดยรอบฝาผนัง ด้านนอกปิดทอง ประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม พุ่มข้าวบิณฑ์บานประตูพระมณฑปเป็นงานศิลปกรรม ประดับมุกชั้นเยี่ยม ของ เมืองไทย พื้นภายในปูด้วยเสื่อเงินสาน ทางขึ้นพระมณฑปเป็นบันไดนาคสามสายซึ่งหมายถึง บันไดเงิน บันได ทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงจากสวรรค์หัวนาคที่เชิงบันไดหล่อด้วยทองสำริด เป็นนาค 5 เศียร บริเวณรอบ พระมณฑปมีระฆังแขวนเรียงราย เพื่อให้ผู้ที่มานมัสการได้ตีแผ่ส่วนกุศลแก่เพื่อนทั้งหลาย ส่วนพระอุโบสถ และพระวิหารต่างๆ ที่อยู่รายรอบ ล้วนสร้างตามแบบศิลปกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา และตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์

นอกจากนี้ ในบริเวณวัดยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท ( วิหารหลวง ) ซึ่งเป็นเก็บรวบรวม ศิลปวัตถุ อันมีค่า อาทิ เครื่องทรงสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธ โบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่าพัดยศของพระสมัยต่างๆ และท่อ ประปาสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช วิหารหลวงจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท ซึ่งปกติ จัดให้มีปีละ 2 ครั้ง คือ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จนถึงแรม 1 ค่ำ และขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 จนถึงแรม 1 ค่ำ และงาน ประเพณีตักบาตรดอกไม้ซึ่งเป็นประจำทุกปี ในวันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 (ประมาณเดือน กรกฎาคม) โดยจะมีการทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสุกที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร และจะไปเก็บดอกไม้ที่ ชาวบ้านเรียกว่าดอกเข้าพรรษา เพราะมีเฉพาะในเดือน 8 เท่านั้น เพื่อนำไปตักบาตรในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ความเชื่อและวิธีการบูชา ตามคติของคนโบราณกล่าวไว้ว่าหากได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทนี้ครบถึง 7 ครั้ง จะได้ไปจุติในสรวงสวรรค์ แม้แต่ในชาติภพนี้ อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ชีวิตมีความสำเร็จสมหวังในทุกประการ

รายละเอียดเพิ่มเติม อัตราค่าเข้าชม คนไทย ไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างประเทศ คนละ 30 บาท เปิดให้สักการะทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.

ประวัติพระพุทธบาท ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ปรากฏว่า มีพระภิกษุสงฆ์ชาวไทยคณะหนึ่ง เดินทางไป ยังลังกาทวีป ด้วยหวังจะสักการบูชาพระพุทธบาท ณ เขาสุมนกูฏ การไปคราวนั้น เป็นเวลาที่พระสงฆ์ชาวลังกา ทวีปกำลังสอบประวัติ และที่ตั้งแห่งรอยพระพุทธบาททั้งปวงตามที่ปรากฏอยู่ในตำนานว่ามีเพียง 5 แห่ง ภาย หลังสืบ ได้ความว่าภูเขาที่ชื่อว่า สุวรรณบรรพตมีอยู่ในสยามประเทศ ครั้นเมื่อได้พบกับพระภิกษุสงฆ์ชาวไทย ในคราวนั้น ต่างพากันสอบถามว่ารอยพระพุทธบาท ที่มีอยู่ 5 แห่ง ในสถานที่ต่างๆ กันนั้น ปรากฏว่ามีที่ เขาสุวรรณบรรพตแห่ง 1 ก็ภูเขาลูกนี้อยู่ในประเทศไทย แต่ไม่พยายามสืบไปนมัสการ กลับพากันไปลังกาทวีป เมื่อพระภิกษุสงฆ์ไทยคณะนั้นได้รับคำบอกเล่า เมื่อกลับมาสู่ประเทศไทย จึงนำความขึ้นถวายสมเด็จ พระเจ้า ทรงธรรม พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีท้องตราสั่งบรรดาหัวเมืองทั้งปวง ให้เที่ยวตรวจตราค้นดูตามภูเขาต่างๆ ว่าจะมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ณ ที่แห่งใด ครั้งนั้น เจ้าเมืองสระบุรี สืบได้ความจากนายพรานบุญว่า ครั้งหนึ่งออก ไปล่าเนื้อในป่าใกล้เชิงเขา ยิงถูกเนื้อตัวหนึ่งเจ็บลำบากหนีขึ้นไปบนไหล่เขา ซุกเข้าเชิงไม้หายไป พอบัดเดี๋ยวก็ เห็นเนื้อตัวนั้น วิ่งออกจากเชิงไม้เป็นปกติอย่างเก่า นายพรานบุญนึกประหลาดใจ จึงตามขึ้นไปดูสถานที่บน ไหล่เขา ที่เนื้อหนีขึ้นไป ก็พบรอยปรากฏอยู่ในศิลา มีลักษณะเหมือนรูป รอยเท้าคน ขนาดยาวประมาณ สักศอก เศษและในรอยนั้นมีน้ำขังอยู่ด้วย นายพรานบุญเข้าใจ ว่าบาดแผลของเนื้อตัวที่ถูกตนยิง คงหายเพราะดื่มน้ำ ในรอยนั้น จึงวักน้ำลองเอามาทาตัวดู บรรดาโรคผิวหนังคือ กลากเกลื้อน ซึ่งเป็นเรื้อรังมาช้านานแล้ว ก็หาย หมด สิ้นไป

เจ้าเมืองสระบุรี จึงสอบสวนความจริงดู ก็ตรวจค้นพบรอยนั้น สมดังคำบอกเล่าของนายพรานบุญ จึงมีใบ บอกแจ้งเรื่องเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม จึงเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไป ณ ที่เขานั้น ทอด พระเนตรเห็นรอยนั้นแล้ว จึงทรงพระราชวิจารณ์ตระหนักแน่นพระราชหฤทัยว่าคงเป็นรอยพระพุทธบาทเพราะ มีลายลักษณ์กงจักร ประกอบด้วยอัฏฐุตตรสตมหามงคลร้อยแปดประการ ตรงกับเรื่องทีชาวลังกา ทวีปแจ้งเข้ามา ด้วย เกิดพระราชศรัทธาปราโมทย์โสมนัสเป็นกำลัง โดยทรงพระราชดำริเห็นว่ารอยพระพุทธบาท ย่อมจัดเป็น บริโภคเจดีย์แท้ เพราะเป็นพุทธบทวลัญช์อันเนื่องมาแต่พระพุทธองค์ ย่อมประเสริฐยิ่งกว่าอุเทสิกเจดีย์ เช่น พระสถูปเจดีย์ สมควรจะยกย่องบูชาเป็นพระมหาเจดียสถาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างก่อเป็น คฤหหลัง น้อย สวมรอยพระพุทธบาทไว้เป็นการชั่วคราวก่อนแล้ว ครั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับมายังราชธานี จึงทรง สถาปนายก ที่พระพุทธบาทขึ้นเป็นเจดียสถานเป็นการสำคัญ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมณฑป ยอดเดี่ยวสวม รอยพระพุทธบาทกำหนดเป็นพุทธเจดีย์ และสร้างอารามวัตถุอื่นๆ เช่น พระอุโบสถ พระวิหาร ให้เป็นที่สำหรับ พระภิกษุอยู่แรม เพื่อทำการบริบาลพระพุทธบาท ทรงพระราชศรัทธาอุทิศเนื้อที่โยชน์หนึ่ง โดยรอบรอยพระพุทธ บาทถวายเป็นพุทธเกษตรต่างพุทธบูชา บรรดากัลปนาผล ซึ่งได้เป็นส่วนของหลวงจากเนื้อที่นั้นให้ ใช้จ่ายเป็น ค่าบำรุงรักษาพระมหาเจดียสถานที่พระพุทธบาท ทรงยกที่พุทธเกษตรส่วนนี้ให้เป็นเมืองชั้นจัตวา ชื่อเมือง ปรันตปะ แต่นามสามัญเรียกกันว่า เมืองพระพุทธบาท ขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา โปรดเกล้าฯ ให้ชายฉกรรจ์ ทุกคนที่ตั้งภูมิลำเนาอยู่ในเขตที่พระพุทธบาทพ้นจากหน้าที่ราชการอย่างอื่นสิ้น ตั้งให้เป็นพวกขุนโขลนเป็น ข้าปฏิบัติบูชารักษาพระพุทธบาทแต่หน้าที่เดียว พระราชทานราชทินนามบรรดาศักดิ์ประจำตำแหน่ง ผู้รักษาการ พระพุทธบาท หัวหน้าเป็นที่ขุนสัจจพันธ์คีรีรัตนไพรวัน เจติยาสันคามวาสี นพคูหาพนมโขลน รองลงมาเป็นที่ หมื่นสุวรรณปราสาท หมื่นแผ้วอากาศ หมื่นชินธาตุ หมื่นศรีสัปบุรุษ ทั้ง 4 คนนี้ เป็นผู้รักษาเฉพาะองค์พระมณฑป ตั้งนายทวารบาล 4 นาย เป็นที่หมื่นราชบำนาญทมุนิน หมื่นอินทรรักษา หมื่นบูชาเจดีย์ หมื่นศรีพุทธบาล โปรดเกล้าฯ ให้สร้างคลังสำหรับเก็บวัตถุสิ่งของที่มีผู้นำมาถวายเป็นพุทธบูชา ให้ผู้รักษาคลังเป็นที่ขุนอินทรพิทักษ์ ขุนพรหมรักษา หมื่นพิทักษ์สมบัติ หมื่นพิทักษ์รักษา ให้มีผู้ประโคมยามประจำทั้งกลางวันกลางคืนเป็นพุทธบูชา ตั้งเป็นที่หมื่นสนั่นไพเราะ หมื่นเสนาะเวหา พันเสนาะ รองเสนาะ ทรงกำหนดเทศกาลสำหรับให้มหาชนขึ้นไป บูชารอยพระพุทธบาท เดือน 3 ครั้ง 1 และเดือน 4 ครั้ง 1เป็นประเพณีตั้งแต่นั้นมา

การเดินทางไปวัดพระพุทธบาท

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว จากถนนพหลโยธิน เมื่อถึงช่วงกิโลเมตรที่ 136 มีทางเลี้ยวซ้าย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3020) แล้วให้ตรงไป เพื่อเข้าวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

2. โดยสาธารณะ ใช้บริการรถตู้ กรุงเทพ-ลพบุรี สามารถขึ้นได้ที่หมอชิต และอนุสาวรีย์ชัยโดยรถจะจอดที่ท่าพระบาท ปากทาง เข้าพระพุทธบาท หลังจากนั้นต่อรถสองแถว เข้าไปยัง วัดพระพุทธบาท รถออกตั้งแต่ 04.00 - 20.00 น. ขากลับข้ามฝั่งมาขึ้นได้ที่ท่าพระบาทเหมือนเดิม จะมีคิวรถตู้จอด อยู่ ของ บริษัท วัชรินทร์ ทัวร์ กรุ๊ป โทร 089 901 7558,086 106 6158

ข้อความ *

รูป
นามสกุล .jpg, .gif, .png ขนาด์ไม่เกิน 100 KB, กว้างไม่เกิน 600 pixel
ชื่อที่ใช้แสดง *
Email
แจ้งทาง Email เมื่อมีคนมา comment (Email จะถูกเก็บเป็นความลับ)
ส่งข้อความ ยกเลิก
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ HotelDirect.in.th ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ info@HotelDirect.in.th เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้
Thailand hotels Thailand hotels
Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
Copyright © 1995-2024 Ideal Creation Center Co., Ltd. All Rights Reserved. Designated trademarks and brands are the property of their respective owners.
Use of this Web site constitutes acceptance of the HotelDirect User Agreement and Privacy Policy.