วัดไตรภูมิ ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรรัตน์ เป็นวัดเก่าแก่ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ พระพุทธมหาธรรมราชาเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องศิลปสมัยลพบุรี
วัดไตรภูมิ ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรรัตน์ เป็นวัดเก่าแก่ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ พระพุทธมหาธรรมราชาเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องศิลปสมัยลพบุรี ชาวบ้านพบในแม่น้ำป่าสักบริเวณหน้าวัด จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดนี้ ต่อมาพระพุทธรูปองค์นี้ได้หายไป และมีผู้พบในแม่น้ำบริเวณที่พบครั้งแรกจึงถือกันเป็นประเพณีของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้อุ้มพระพุทธรูปลงดำไปยังก้นแม่น้ำ แล้วโผล่ขึ้นมา ทำเช่นนี้จนครบทั้ง 4 ทิศ ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่จังหวัด และถ้าไม่ได้กระทำพิธีอุ้มพระดำน้ำจะเกิดฝนแล้งพิธีอุ้มพระดำน้ำนี้จะทำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10
ประวัติ มีตำนานเล่าว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์แห่งนครธมได้พระราชทานพระพุทธมหาธรรมราชาแก่พ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด (อ. หล่มสัก) ในครั้งที่ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางสิงขรมหาเทวี พระธิดาของพระองค์ เพื่อเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง แต่หลังจากพ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางห่าว เจ้าเมืองบางยาง (อ. นครไทย) ร่วมกันกอบกู้อิสรภาพให้แก่คนไทย พระนางสิงขรมหาเทวีทรงแค้นเคืองมาก จึงเผาเมืองราดจนย่อยยับ เสนาอำมาตย์ต้องอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาหลบหนีไฟ โดยล่องแพมาตามแม่น้ำป่าสัก แต่เนื่องจากแม่น้ำมีความคดเคี้ยว ประกอบกับกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ทำให้แพแตก องค์พระจมหายไปในแม่น้ำ จนกระทั่งชาวประมงไปพบ จึงเกิดประเพณีอุ้มพระดำน้ำในเวลาต่อมา ในวันสงกรานต์ชาวเพชรบูรณ์จะร่วมกันสรงน้ำพระพุทธมหาธรรมราชาเป็นประจำทุกปี
พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสมัยลพบุรี หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน พระพักตร์กว้าง มีลักษณะเป็นเหลี่ยม พระโอษฐ์แบะ แลดูน่าเกรงขาม พระกรรณยาวเกือบจรดพระอังสา พระเศียรทรงเทริดหรือชฎา ทรงสร้อยพระศอ พาหุรัด และประคตเป็นลวดลายงดงาม ประดิษฐานบนโต๊ะบูชาในศาลาไม้ มีจำนวนสององค์ องค์จริงคือองค์บนสุด ส่วนองค์ที่อยู่ด้านล่างหล่อจำลองขึ้นใหม่เพื่อใช้ประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ เนื่องจากองค์จริงหล่อด้วยสัมฤทธิ์ เมื่อนำลงดำน้ำบ่อยๆ เกรงว่าจะทำให้องค์พระหมองคล้ำหรือชำรุดเสียหาย
ความเชื่อและวิธีการบูชา พระพุทธมหาธรรมราชาเป็นที่เคารพบูชาของชาวเพชรบูรณ์ และพากันมาขอพรเพื่อรักษาโรคภัย และขอให้พืชพันธุ์ธัญญาหารสมบูรณ์ รวมทั้งความร่มเย็นเป็นสุข แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ในประเพณีของการอุ้มพระดำน้ำ มีความเชื่อกันว่าหากได้อัญเชิญองค์พระพุทธมหาธรรมราชาไปกระทำพิธีอุ้มพระดำน้ำแล้ว บ้านเมืองจะมีความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนชาวเมืองจะมีแต่ความผาสุกสืบไป แต่ถ้าปีใดไม่ได้ทำพิธีก็จะเกิดความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง โรคภัยไข้เจ็บ และพระพุทธรูปองค์นี้จะหายไป ดังนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นตัวแทนชาวเพชรบูรณ์ ในการประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ และในพิธีดังกล่าวนั้นชาวบ้านจะโปรยดอกไม้และเครื่องหอมลงในแม่น้ำป่าสักเพื่อเป็นเครื่องสักการะ และจะพากันตักน้ำในแม่น้ำที่ไหลผ่านองค์พระ มาตักอาบชำระร่างกาย ลูบไล้ศีรษะเนื้อตัว และนำไปประพรมบ้านเรือนเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย