เป็นงานประเพณีที่ทำกันทุกปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ตามจันทรคติของจีน คือหลังวันตรุษจีน 15 วันของทุกปี (หรือตรงกับวันเพ็ญ เดือน 3 ตามจันทรคติของไทย) มีการสมโภชแห่แหนรูปสลักไม้มะม่วงหิมพานต์ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและรูปพระอื่นๆ
ประเพณีแห่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
ในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี จะมีงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวโดยจังหวัดปัตตานีจะให้ความสำคัญกับงานนี้ เป็นพิเศษ งานสมโภชนี้จะมีความยิ่งใหญ่มโหฬารมีประชาชนจากต่างจังหวัดของไทยและจาก ประเทศเพื่อนบ้านเดินทางหลั่งไหลมาชมงานนมัสการเจ้าแม่กันอย่างเนืองแน่น ปกติจะมีการจัดงานประมาณ 7 วัน 7 คืน นับตั้งแต่วันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 บรรดาร้านค้ามาเปิดขายของคล้ายๆ กับงานประจำปีทั่วๆ ไปมหรสพ 2 อย่างที่จะขาดเสียมิได้ คือ งิ้ว และมโนห์รา งิ้วและมโนราห์จะจัดให้แสดงบนโรงถาวรหน้าศาลเจ้า เพราะถือว่าเจ้าแม่ชอบดูศิลปะการแสดงทั้ง 2 อย่างนี้มาก นอกจากนี้ยังมีการเชิดสิงโต หนังกลางแปลงจอยักษ์ และอื่นๆ อีกมากมาย
คืนวันขึ้น 14 ค่ำ บริเวณงานจะยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ เพราะผู้คนจะหลั่งไหลมาอย่างเต็มที่ ทางมูลนิธิเทพปูชนียสถานจะจัดการแสดงต่างๆ ที่เร้าใจผู้คนมากยิ่งขึ้น เช่น จัดแห่มังกร นครสวรรค์ และจุดพลุตระการตา ภายในศาลเจ้าผู้คนจะเบียดเสียดยัดเยียดเข้าสักการะเจ้าแม่เด็กๆ วัยรุ่น ผู้ใหญ่ วัยฉกรรจ์ ตระเตรียมจองคานหามกันคึกคัก เพื่อร่วมพิธีอันสำคัญยิ่งของงานที่จะเริ่มต้นเช้าตรู่ไปจนถึงเที่ยงวันรุ่ง ขึ้น นั่นคือ การแห่พระรอบเมือง และการหามและลุยไฟตอนเช้าตรู่ของวันขึ้น 15 ค่ำ ท่ามกลางเสียงกลอง และเสียงประทัดประดังจนแสบแก้วหู ขบวนคานหามเริ่มทยอยออกจากศาลเจ้า โดยธรรมเนียมปฏิบัติ พระหมอจะเป็นคานหามนำ ตามด้วยคานหามเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นอันดับ 2 แล้วจึงต่อด้วยคานหามพระองค์อื่นๆ ตามความเหมาะสม
กำหนดงาน
วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ตามจันทรคติจีน (หลังตรุษจีน 14 วัน) ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม ทางจันทรคติไทย คือ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่ www.tat.or.th/festival
กิจกรรม / พิธี
- ตั้งขบวนแห่ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยอัญเชิญรูปจำลองเจ้าแม่ องค์พระประธานพระหมอ ตลอดจนพระต่างๆ ที่ประดิษฐานอยู่ ณ ศาลแห่งนี้ขึ้นเสลี่ยง จัดขบวนแห่ มีการเชิดสิงโต ขบวนธง ดนตรี ร่วมขบวนแห่ไปตามถนนสายต่างๆ รอบตัวเมืองปัตตานี
- เคลื่อนขบวนแห่ เมื่อเคลื่อนผ่านสะพานเดชานุชิต คนหามเสลี่ยงเจ้าแม่ พระบูชา และเทพอื่นๆ จะทยอยหามเสลี่ยงเดินลุยน้ำ เรียก พิธีลุยน้ำตรงริมแม่น้ำปัตตานี เพื่อเป็นการระลึกถึงการรอนแรมข้ามทะเลด้วยความยากลำบาก เพื่อตามหาพี่ชายจนกระทั่งต้องจบชีวิตลงด้วยความกตัญญู ผู้หามเสลี่ยง จะว่ายน้ำพร้อมพยุงคานหามข้ามแม่น้ำจากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก จากนั้นแห่แหนไปรอบเมืองตามกำหนด แล้วกลับมายังลานกว้างหน้าศาลเจ้า เพื่อทำพิธีลุยไฟ คือ การหามเสลี่ยงเจ้าแม่ พระบูชา และเทพอื่นๆ เดินข้ามกองไฟ ซึ่งกำลังลุกโชน ผู้ที่มาลุยไฟนั้นต้องเข้ารับการทดสอบจากผู้อาวุโสที่ศาลเจ้า และนักลุยไฟรุ่นพี่ก่อนว่า พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ หากได้รับอนุญาตให้ลุยไฟได้ ต้องมาอยู่ประจำศาลเจ้าระยะหนึ่งก่อนงานพิธี เพื่อถือศีล กินเจ ปฏิบัติธรรม รักษากายใจให้บริสุทธิ์ ชาวจีนเชื่อกันว่า ผู้เข้าหามเสลี่ยงลุยไฟนี้จะได้บุญกุศลมาก ผู้ลุยไฟในพิธีนี้จะลุยผ่านไฟอย่างปลอดภั
- ตอนกลางคืน มีการจัดงานมหรสพสมโภช บริเวณลานกว้างหน้าศาลเจ้า มีทั้งงิ้ว มโนราห์ รำลง ภาพยนตร์ การแสดงของนักเรียน การออกร้านขายของ
- จัดงาน 2 วัน ในระหว่างงานมีผู้มาสักการะบูชาที่ศาลเจ้าอย่างคับคั่งด้วย