อุทยานแห่งชาติคลองพนมเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง เป็นอุทยานที่กำลังจะประกาศจัดตั้ง อยู่ในเขตตำบลคลองสก ตำบลพนม ตำบลพลูเถื่อน อำเภอพนม มีเนื้อที่ 2,900,000 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนเรียงรายสลับซับซ้อน และมีป่าไม้ที่สมบูรณ์อุดมด้วยไม้ใหญ่
อุทยานแห่งชาติคลองพนม เป็นอุทยานที่กำลังจะประกาศจัดตั้ง อยู่ในเขตตำบลคลองสก ตำบลพนม ตำบลพลูเถื่อน อำเภอพนม มีเนื้อที่ 2,900,000 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนเรียงรายสลับซับซ้อน และมีป่าไม้ที่สมบูรณ์อุดมด้วยไม้ใหญ่นานาพรรณ เป็นป่ารกครึ้มร่มรื่น มีลำธารใหญ่น้อยจำนวนมาก ซึ่งลำธารนี้ไหลรวมกับคลองสกและคลองสกไหลไปรวมกับคลองแสง เป็นต้นกำเนิดของคลองพุมดวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำตาปี
ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติคลองพนม เป็นลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนสูงชันเรียงรายสลับซับซ้อนเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ทั้งหมด มีลำธารน้อยใหญ่จำนวนมาก ซึ่งลำธารเหล่านี้ไหลไปรวมกับคลองพนมและคลองศก แล้วไหลไปรวมกับคลองแสง และคลองยันเป็นต้นกำเนิดของคลองพุมดวงซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำตาปี
ลักษณะภูมิอากาศ
อุทยานแห่งชาติคลองพนม จะมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี โดยฤดูผนจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม - เดือนธันวาคม และจะมีฝนตกชุกช่วงเดือนสิงหาคม - เดือนตุลาคม อากาศร้อนสุดเดือนเมษายน
พืชพันธุ์และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติคลองพนม สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าดิบชื้น โดยเฉพาะทางตอนกลางของพื้นที่มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ที่มีค่ามากมายหลายชนิด เช่น ตะเคียน ยาง ตาเสือ จิกเขา กระท้อน ขนุนป่า เสียดช่อ อินทนิล นาคบุตร หงอนไก่ จำปาป่า พันธุ์สัตว์ เนื่องจากสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้อุทยานแห่งชาติคลองพนม เป็นแหล่งพักพิงอาศัยของสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ได้แก่ ช้างป่า กวาง เลียงผา เสือ หมี สมเสร็จ เก้ง กระจง ลิง ค่าง บ่าง ชะนี กระรอก ไก่ป่า นกนานาพันธุ์ และสัตว์เลื้อยคลานอีกมากมายหลายชนิด
สถานที่น่าสนใจของอุทยานฯ ได้แก่
ค่ายเขาวงก์ ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ การเดินทางจะต้องผ่านลำธารน้ำตกเขาวงก์ซึ่งสูง 8 ชั้น พื้นที่เกษตรกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต จากนั้นจึงเดินเข้าถ้ำตามลำธารน้ำไหล ซึ่งเป็นถ้ำมืดสามารถเดินทะลุเขาอีกด้านหนึ่งได้ ใช้เวลา 45 นาที ภายในถ้ำอดีตเคยเป็นที่ตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน
น้ำตกช่องยูง เป็นน้ำตกที่เป็นชั้นลดหลั่นกันลงมา แลดูสวยงาม มีสายน้ำที่เย็นฉ่ำ ท่ามกลางป่าไม้ร่มรื่นที่สมบูรณ์
ถ้ำนอนและถ้ำน่าน เป็นถ้ำที่เกิดจากภูเขาหินปูน ภายในมีหินงอกหินย้อยที่ดูเป็นประกายพราวด้วยแร่ไมกา
ถ้ำแก้ว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 2 กิโลเมตร การจะไปถ้ำแก้วต้องเดินเท้าเลียบไปตามแนวเขาที่สูงชัน ระยะทาง 919 เมตร โดยเริ่มจากวังมัจฉา (วัดถ้ำวราราม) บริเวณกิโลเมตรที่ 92 ใช้เวลาเดิน 30 นาที ภายในถ้ำจะมีห้องต่างๆ หลายห้องที่มีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ ตามชื่อห้องนั้นๆ เช่น ถ้ำแก้ว ซึ่งที่มาของชื่อถ้ำนั้น เกิดจากผนังถ้ำจะมีหินที่มีลักษณะเหมือนกลีบผ้าม่าน และมีแสงระยิบระยับของเกล็ดหินมองแล้วเหมือนเกล็ดแก้ว เกล็ดแก้ว เป็นห้องที่มีแสงระยิบระยับของเกร็ดหินบริเวณหินงอกหินย้อย ห้องฤาษี มีหินลักษณะเหมือนพระฤาษี ห้องม้าน้ำ จะมีหินย้อยที่มีลักษณะเหมือนม้าน้ำจำนวนหลายร้อยตัวเรียงรายกันอยู่อย่าง น่าอัศจรรย์ ห้องหม้อยา เป็นห้องที่มีหินงอกลักษณะคล้ายหม้อยา จนถึงกับมีชาวบ้านนำเอาเศษหินเศษดินในหม้อยานี้ไปใช้รักษาโรคก็มี
นอกจากนั้น อุทยานฯ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ "วังมัจฉา-ถ้ำแก้ว" ระยะทาง 1 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายบอกถึงความสัมพันธ์ของพืขและสัตว์ในป่าที่ ต่างต้องพึ่พาอาศัยซึ่งกันและกัน และตามเส้นทางเดินยังมีจุดชมวิวที่จะเห็นความสมบูรณ์ของป่าได้อีกด้วย