กล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุดรธานีที่อยู่ใกล้ตัวเมืองที่สุดจึงถือเป็นเสน่ห์ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศให้เดินทางไปสัมผัสกับความแปลกและความสวยงามของกล้วยไม้นานาชนิด
"สวนกล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์" เป็นสวนกล้วยไม้ที่ผลิตกล้วยไม้กลิ่นหอมพันธุ์ใหม่ของไทยซึ่งใช้เวลาในการ ค้นคว้า และผสมพันธุ์ระหว่างแวนด้า (Vanda) โจเซฟฟินแวนเบอร์โร (Josephine Van Berrow) ได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ที่สมาคมกล้วยไม้โลก ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2531 ชื่อพันธุ์ Udon Sunshine Orchid หรือพันธุ์นางสาวอุดรซันไฌน์ ซึ่งมีกลื่นหอมมากจนสามารถนำไปสกัดทำน้ำหอมในชื่อเดียวกัน ซึ่งผู้สนใจสามารถทดลองกลิ่นและเลือกซื้อได้ที่สวนกล้วยไม้ฯ และร้านสินค้าพื้นเมืองอุดรธานี
ความเป็นมา กล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดอุดรธานีที่อยู่ใกล้ตัวเมืองที่สุดจึงถือเป็นเสน่ห์ในการดึงดูดนักท่อง เที่ยวชาวไทยและต่างประเทศให้เดินทางไปสัมผัสกับความแปลกและความสวยงามซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียว ในโลกนี้ก็ว่าได้ กล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์เป็นกล้วยไม้พันธุ์ แวน ด้าใบร่อง ลูกผสมระหว่างสามปอยดง และโจเซฟฟิน แวนเบอโร่ ผสมได้ด้วยฝีมือของมนุษย์เมื่อปี 2520 โดยเกษตรกรสมัครเล่นชื่อนายประดิษฐ์ คำเพิ่มพูล อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 ซอยกลมพัฒนา ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี
กล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์เริ่มให้ดอกราวปี พ.ศ.2530 เมื่อดอกออก มาจะให้กลิ่นหอมรัญจวนแบบไทยๆ นับว่าเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน ในโลกนี้ ดอกของกล้วยไม้ชนิดนี้จะให้กลิ่นหอมตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนกระทั่งถึงบ่ายโมง ต่อมากลิ่นจะเปิด-ปิดในช่วงเวลาดังกล่าวจนกว่าดอกจะเหี่ยวแห้งไป นอกจากดอกจะให้ความหอม เป็นกรณีพิเศษแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง3 สีคือ เมื่ออากาศเย็นจัดระหว่าง 10-15 องศาเซลเซียส ดอกจะเป็นสีแดงสดใสเมื่ออุณหภูมิ 15 -20 องศาเซลเซียส ดอกจะเป็นสีทอง ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่านี้ ดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดแต่กลิ่นยังคงที่เหมือนเดิม สำหรับดอกยังมีคุณลักษณะพิเศษอีก โดยจะมีความทนนานคาต้นโดยที่ไม่ต้องตัดจะอยู่ได้ราว 60 วัน ถ้าตัดออกจากต้นจะอยู่ได้15 วัน แต่ถ้าอากาศเย็นจัดจะสามารถอยู่ได้ถึง 25 วัน ส่วนกลิ่น ถ้าตัดแล้วจะให้ความหอมประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นกลิ่นจะค่อยจางหายไปตามลำดับ จนกว่าดอกจะแห้งในที่สุด ปัจจุบันกล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์แล้วที่สมาคมกล้วยไม้โลกประเทศอังกฤษ
วิธีการปลูกกล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์ ให้ปลูกในกระถางที่มีรูโดยรอบ (ถ้ามี)
1. ให้ถูกแสงแดดประมาณ 70 - 80%
2. ให้ตั้งกระถางสูงจากระดับพื้นพอสมควร
3. ให้ใช้ปุ๋ยสูตรตัวกลางสูงตลอดไป เช่น สูตร 10 : 52 : 17 สเปเชียล ของบริษัทเสรีเคมีเกษตร และอุตสาหกรรม จำกัด
4. ให้ใช้ยาฆ่าเชื้อราบ่อยครั้งในฤดูฝน ปกติเดือนละไม่เกิน 2 ครั้ง
5. การตัดดอกเพื่อใช้ ให้ตัดช่อดอกที่มีดอกตูมติด 30% เสมอ ดอกจะทนหลายวัน ดอกตูมจะบานเองในวันต่อ ๆ ไป หมายเหตุ สีของดอกจะเปลี่ยน 2 ครั้งหลังตัดจากต้น
นอกจากกล้วยไม้อุดรซันไฌน์แล้ว ยังมีของดีอีกอย่างหนึ่งคือ “สาวน้อยอุดรเริงระบำ” ที่ มีความอัศจรรย์ คือสามารถเต้นระบำตามเสียงปรบมือ หรือเสียงดนตรีได้ ในลักษณะคล้ายรำละคร สันนิษฐานว่าเป็นเพราะลักษณะพิเศษทางกายภาพของต้นไม้นี้ ที่สามารถรับคลื่นเสียง แล้วส่งผลให้หูใบกระดิก หรือเคลื่อนไหวได้
ต้นไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณในทางยาด้วย เนื่องจากพันธุ์เดิมคือ ต้นช้อยนางรำ ถือเป็นสมุนไพรไทยชั้นยอด ใช้ใบ ลำต้น และราก ต้มดื่มรักษาอาการเจ็บป่วย ขับปัสสาวะ แก้ประสาทพิการ แก้ฝีในท้อง ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ต้นสาวน้อยอุดรเริงระบำจึงได้แปรรูปเป็น ใบชา ในชื่อ "ชาชะลอชรา" สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกรายการหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี
การเดินทาง ตั้งอยู่ที่ซอยกมลวัฒนา ถนนอุดร-หนองสำโรง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จากทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-หนองคาย) เมื่อผ่านสนามกอล์ฟหนองสำโรง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ป้ายบอกทางเข้าสวนกล้วยไม้ทางด้านขวามือ หากใช้เส้นทางจากแยกวงแหวน-หนองสำโรง สวนกล้วยไม้ฯ จะอยู่ซ้ายมือ