เที่ยววัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่พักวัดพนัญเชิงวรวิหาร สถานที่ท่องเที่ยววัดพนัญเชิงวรวิหารแผนที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร

เที่ยววัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่พักวัดพนัญเชิงวรวิหาร สถานที่ท่องเที่ยววัดพนัญเชิงวรวิหารแผนที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร
  "จองง่าย ไม่ผ่านใคร"
Thailand Travel
อโยธารา วิลเลจ รีสอร์ท
เป็นโรงแรมสไตล์ไทยติดทิวทัศน์ริมแม่น้ำ ภายใต้ความสงบร่มรื่นของต้นกล้วยและพืชพรรณ ...
ปลายนา รีสอร์ท
ปลายนา รีสอร์ท เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่ดีเยี่ยมใน อยุธยา ด้วยทำเลที่ตั้งอันเ ...
อยุธยา การ์เด้น ริเวอร์โฮม
โรงแรมสงบเงียบเหมาะกับการอยู่สันโดษห้องกว้าง ตกแต่งสวย บรรยากาศเงียบสงบ สัมผัสได ...
กรุงศรี ริเวอร์
กรุงศรี ริเวอร์ ห้องพักสวย สะอาด เห็นวิวแม่น้ำ สะดวกสบาย กว้างขวาง ที่พักตั้งอยู ...
เดอะคาวาลิ คาซ่า รีสอร์ท
เดอะคาวาลิ คาซ่า รีสอร์ท ห่างจากตลาดน้ำอโยธยาและสถานีรถไฟอยุธยาเพียง 5 นาทีหากเด ...
พระราชวังบางปะอิน
พระราชวังบางปะอินแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เขตพระราชฐานชั้นนอกและเขตพระราชฐานชั้นใน ...
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรี ...
วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนารามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง เป็นวัดที่พระเจ้าปราสา ...
วัดพระราม
วัดพระรามเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา อยู่นอกเขตพระราชวังไปทางด้านทิศตะวันออก ตรงข้า ...
ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ
ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำอย่างยิ่ง จัดตั้งขึ้นเพื่ ...
Rating : 7/10
6098
 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วัดพนัญเชิงวรวิหารเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเที่ยวไม่ขาดสาย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลคลองสวนพลู ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กิโลเมตร

วัดพนัญเชิงวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา

ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลคลองสวนพลู ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กิโลเมตร หรือเมื่อออกจากวัดใหญ่ชัยมงคล ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปตามถนนประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเห็นวัดพนัญเชิงอยู่ทางขวามือ

วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิง ศพพระนางสร้อยดอกหมาก และพระราชทานนามวัดว่า “วัดพระเจ้าพระนางเชิง” หรือ "วัดพระนางเชิง" พระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตามพงศาวดารกล่าวว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1867 ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา 26 ปี เดิมชื่อ “พระพุทธเจ้าพนัญเชิง” (พระเจ้าพะแนงเชิง) แต่ในรัชกาลที่ 4 เมื่อมีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปองค์นี้ได้พระราชทานนามใหม่ว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” (ชาวบ้านนิยมเรียกหลวงพ่อโต ชาวจีนนิยมเรียกว่าซำปอกง ผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล) เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบอู่ทองปางมารวิชัยลงรักปิดทอง มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 19.13 เมตร ฝีมือปั้นงดงามมาก เบื้องหน้ามีตาลปัตรหรือพัดยศ และพระอัครสาวกที่ทำด้วยปูนปั้นลงรักปิดทองประดิษฐานอยู่เบื้องซ้ายและขวา

อาจนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งสมัยอยุธยาตอนต้นที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดที่ เหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง เข้าใจว่าเมื่อสร้างพระองค์ใหม่เสร็จแล้วจึงสร้างพระวิหารหลวงขึ้นคลุมอีกที หนึ่ง ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อคราวพระนครศรีอยุธยาจะเสียกรุงแก่ข้าศึกนั้น พระพุทธรูปองค์นี้มีน้ำพระเนตรไหลออกมาทั้งสองข้าง ส่วนในพระวิหาร เสาพระวิหารเขียนสีเป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่งสีแดงที่หัวเสามีปูนปั้น เป็นบัวกลุ่มที่มีกลีบซ้อนกันหลายชั้น ผนังทั้งสี่ด้านเจาะเป็นซุ้มเล็กประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดเล็กโดยรอบจำนวน 84,000 องค์เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา ส่วนประตูทางเข้าด้านหน้าซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก เป็นบานประตูไม้แกะสลักลอยตัวเป็นลายก้านขดยกดอกนูนออกมา เป็นลักษณะของศิลปะอยุธยาที่งดงามมากแห่งหนึ่ง พระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูป 5 องค์ ศิลปะสุโขทัย วิหารเซียน อยู่ด้านหน้าของพระวิหารหลวงเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งแต่เดิมมีภาพ จิตรกรรมเขียนไว้บนผนังทั้งสี่ด้าน แต่ถูกโบกปูนทับไปแล้วเมื่อคราวบูรณะปฏิสังขรณ์ ข้างในพระวิหารหลังนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบอยุธยา ศาลาการเปรียญหลังเก่าย้ายจากริมแม่น้ำมาอยู่ด้านหลังของวัด เป็นศาลาทรงไทยสร้างด้วยไม้ หน้าบันประดับช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ บริเวณคอสอง(ขื่อ) ด้านในศาลามีภาพเขียนสีบนผ้าเป็นภาพพุทธประวัติอยู่โดยรอบ มีตัวอักษรเขียนไว้ว่าภาพเขียนสีนี้เขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2472 ภายในศาลามีธรรมาสน์อยู่ 1 หลังสลักลวดลายสวยงามเป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ภายในวัดพนัญเชิงยังจะพบ ตึกเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ก่อสร้างเป็นตึกแบบจีนเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมากในเครื่อง แต่งกายแบบจีน ชาวจีนเรียกว่า “จูแซเนี๊ย” เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนทั่วไป สำหรับชาวต่างประเทศเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท

งานประเพณีทิ้งกระจาดจัดเป็นประจำทุกปี ในช่วงกลางเดือน 7 ของจีน หรือตรงกับเดือน 9 ของไทย (ประมาณปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน)

ความเชื่อและวิธีการบูชา ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง โดยเชื่อว่าหากทำการค้าขายใด ๆ แล้วมาตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าหลวงพ่อ จะทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง การค้าร่ำรวย และการงานรุ่งเรือง ถ้ามีเด็กเล็กที่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย นำมาถวายให้เป็นลูกของหลวงพ่อ หรือจุดธูปเทียนอธิษฐาน บารมีของท่านจะปกป้องคุ้มครอง ช่วยให้หายวันหายคืน ส่วนใหญ่นิยมบนบานด้วยการถวายผ้าห่มหลวงพ่อโต ซึ่งเชื่อว่าท่านจะอวยพรให้สัมฤทธิ์ผลดังใจหมาย

Thailand hotels Thailand hotels
Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
Copyright © 1995-2024 Ideal Creation Center Co., Ltd. All Rights Reserved. Designated trademarks and brands are the property of their respective owners.
Use of this Web site constitutes acceptance of the HotelDirect User Agreement and Privacy Policy.