โบสถ์คริสต์บ้างซ่งแย้ (วัดอัครเทวดามิคาแอล) ยโสธร เป็นศาสนาสถานที่สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 500 คน โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่สร้างขึ้นด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
โบสถ์คริสต์บ้างซ่งแย้ จังหวัดยโสธร พลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าของคริสต์ชน ที่ได้ลงแรงร่วมกันสร้างโบสถ์ไม้ขนาดใหญ่ด้วยเสาไม้ถึง 336 ต้น และแป้นไม้มุงหลังหว่า 8 หมื่นแผ่น เป็นศาสนาสถานที่สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 500 คน โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่สร้างขึ้นด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยตัวโบสถ์เป็นอาคารทรงหน้าจั่วแบบไทยประดับด้วยไม้กางเขนเบื้องบน เรียบง่าย แต่ดูสงบงดงาม
โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ ตั้งอยู่ที่อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร มีประวัติเล่าสืบกันมาว่าในปี ค.ศ.1908 มีผู้หนีตายอพยพจากที่ต่าง ๆ กัน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้รวม 5 ครอบครัว ซึ่งหนีมาด้วยสาเหตุเดียวกัน คือ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ ชาวบ้านในหมู่บ้านจึงรุมทำร้ายและขับไล่ จากนั้นได้เดินทางไปหาบาทหลวงเดชาแนล และบาทหลวงออมโบรซีโอ ที่บ้านเซซ่ง ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ขอให้ไปช่วยขับไล่ผีปิศาจที่สิงสู่อยู่กับตนและ ครอบครัว ซึ่ง บาทหลวงทั้ง 2 ท่าน ก็ยอมเข้าป่าลึกไปตามคำขอ เมื่อรู้สึกดีขึ้น ทั้ง 5 ครอบครัว จึงเข้านับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ต่อมาบ้านหนองซ่งแย้ มีผู้คนอพยพ ไปอยู่มากขึ้น
ในปี ค.ศ. 1909 ชาวบ้านปลูกกระต๊อบ ฝาขัด แตะเล็ก ๆ ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา นับว่าเป็นจุดกำเนิดวัดซ่งแย้ หรือชื่ออย่าง เป็นทางการ เป็นภาษาละตินว่า วัดอัครเทวดามิคาแอล ตามชื่อนักบุญองค์สำคัญ เป็นภาษาอังกฤษคือโบสถ์ เซนต์ไมเคิล เป็นภาษาฝรั่งเศสคือ โบสถ์แซงต์ มิเชล โดยมีบาทหลวงเดชาแนล เป็นอธิการโบสถ์คนแรก และคนในบ้านหนองซ่งแย้ซึ่งล้วนแต่เป็นชาวไทยอีสาน ได้มาเข้ารีต ถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เกือบทั้งหมด
หลังจากนั้น ได้มีการสร้างอาคารโบสถ์ใหม่หลายครั้ง โบสถ์ ไม้เนื้อแข็งหลังปัจจุบันนี้ เป็นโบสถ์หลังที่ 4 วางแผนก่อสร้างปี ค.ศ. 1936 ชาวบ้านพากันรวบรวมไม้ ลงมือสร้างปี ค.ศ. 1947 ตัวโบสถ์รูปทรงที่สร้างขึ้นมีลักษณะแบบศิลปะไทย กว้าง 16 เมตร ยาว 57 เมตร จัดเป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใช้แผ่นไม้เป็นแป้นมุง หลังคา 80,000 แผ่น ใช้เสาขนาดต่าง ๆ กันถึง 360 ต้น ส่วนใหญ่เป็นเสาไม้เต็ง เสาในแถวกลางมีขนาดใหญ่ยาวที่สุดมี 260 ต้น สูงจากพื้นดินกว่า 10 เมตร พื้นแผ่นกระดานเป็นไม้แดงและไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ ม้านั่งไม้จุคนได้กว่าพันคน ระฆังโบสถ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 2 ฟุต อยู่ในหอระฆังสูงที่สร้างแบบหอระฆังตามวัดไทยทั่วไป แต่แปลกตรงที่แยกต่างหากจากโบสถ์ และเนื่องจากไม้ที่ได้รวบรวมมามีจำนวนมาก จึงได้นำไม้ที่เหลือมาสร้างโรงเรียนบ้านซ่งแย้พิทยา
คริสต์ชนหรือทุกท่านที่ได้เดินทางมาจังหวัดยโสธร ควรหาโอกาสมานมัสการหรือชมโบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ที่แสดงถึงศรัทธาอันแรงกล้าในพระผู้เป็นเจ้าของชาวซ่งแย้ ที่ร่วมกันสร้างโบสถ์คริสต์ไม้หลังใหญ่ที่สุดขึ้นนับแต่อดีต และเป็นมรดกสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ถือเป็นศาสนาสถานที่มีเอกลักษณ์ และมีความสำคัญ ถือเป็นสมบัติอันทรงคุณค่าของจังหวัดยโสธรและประเทศชาติ
การเดินทางไปโบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ จากยโสธรใช้ทางหลวงหมายเลข 2169 เลยอำเภอกุดชุมไปประมาณ 7-8 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกราว 600 เมตร ถึงบริเวณโรงเรียนซ่งแย้พิทยาและโบสถ์ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน