จุดเด่นผลิตภัณฑ์ชาเขียวใบหม่อน เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปประเภท เครื่องดื่ม มีจุดเด่นที่เป็นภูมิปัญญาคนไทย สามารถประยุกต์ใช้วัตถุดิบในพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไปมาปรับเป็นผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มมูลค่า มีคุณค่า มีกลิ่นหอม
กลุ่มผู้ผลิต กลุ่มชาใบหม่อน
สถานที่ผลิต บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านตะโก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์
ประธานกลุ่ม นางลั่นทม สุทธะ
ต้นหม่อนเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านในบ้านเกตุเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านตะโก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ และหมู่บ้านใกล้เคียงปลูกเพื่อไว้เลี้ยงไหม ผลิตเส้นไหมไว้สำหรับทอผ้าในการนุ่งห่ม ผู้หญิง สตรี ในอดีตจะทอผ้าไหมเพื่อใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มกันเอง โดยใช้วัสดุที่มีขึ้นเองในธรรมชาติ และมีการสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าไหมแก่ลูกหลานสืบทอดกันต่อๆ มา นอกจากนี้ชาวบ้านนิยมทอผ้าไว้ใช้ในงานประเพณีท้องถิ่น เช่น บวชนาค งานแต่งงาน งานกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ
จุดเริ่มต้นที่มีการแปรรูปจากใบหม่อนไว้เลี้ยงไหมมาผลิตเป็นใบชาเขียวใบ หม่อน จากคำเล่าขานกันมา ในช่วงปี พ.ศ. 2542 ผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายสิทธิ์ สุทธะ ได้ทดลองแปรรูปไว้บริโภคเอง แบบลองผิดลองถูก ต่อมามีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ เกษตรอำเภอ ได้เข้ามาให้คำแนะนำขั้นตอนการผลิตที่ถูกต้อง จึ่งได้พยายามผลิตใบชาจากใบหม่อนเพื่อจำหน่ายอีกครั้งและเข้าไปอบรมเพิ่ม เติมที่สถานีทดลองหม่อนไหมจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่องการแปรรูปใบหม่อนให้มีมูลค่าเพิ่ม และได้รวบรวมสมาชิกในหมู่บ้านที่กำลังว่างงานเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ จำนวน 8 ราย ระดมทุนเริ่มต้นคนละ 200 บาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และวัสดุต่าง ๆ เนื่องจากสมาชิกมีความอดทนและความพยายามหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ตลอดจนเข้าหาส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านวิชาการงบ ประมาณ การตลาด การวางแผนบริหารจัดการกลุ่ม ให้แก่สมาชิกอย่างสม่ำเสมอ จนสามารถเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้บริโภคและสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ สมาชิกนอกเหนือจากฤดูการทำนาจนสมาชิกเพิ่มขึ้น มีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5,000-7,000 บาท/คน และสามารถเป็นที่ยอมรับของตลาดจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของชาวบ้านเกตุเหนือ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตชาเขียวใบหม่อนโดยเฉพาะเนื่องจากรายได้ดีกว่า การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหม
จุดเด่นผลิตภัณฑ์ ชาเขียวใบหม่อน เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปประเภท เครื่องดื่ม มีจุดเด่นที่เป็นภูมิปัญญาคนไทย สามารถประยุกต์ใช้วัตถุดิบในพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไปมาปรับเป็นผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มมูลค่า มีคุณค่า มีกลิ่นหอม
มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ
1. OTOP Product Champion ปี 2549 ระดับ 4 ดาว
2. OTOP Product Champion ปี 2553 ระดับ 4 ดาว
3. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
4. มาตรฐานอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารสุข
5. มาตรฐาน จี.เอ็ม.พี กระทรวงสาธารณสุข
วัตถุดิบ
1. ใบหม่อนพันธ์ บร.69
2. มีดและเขียง
3. หม้อ
4. กะทะ
5. เตาแก็ส
6. ตะแกรง
7. ตู้อบ
8. กาละมัง
ขั้นตอนการผลิต
1. เลือกใบหม่อนประมาณใบที่ 4-5 ห่างจากยอด
2. หั่นใบหม่อนขนาดประมาณ 4 x 0.5 ซม.
3. ลวกน้ำร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 90 องศา นาน 20 นาที
4. นำลงไปแช่น้ำเย็น
5. นำไปคั่วให้แห้ง
6. นำไปอบในตู้อบ อุณหภูมิประมาณ 100 องศา 1 ชั่วโมง
7. บรรจุภัณฑ์ตามต้องการ
การผลิตชาเขียวใบหม่อนวัตถุดิบหลักที่สำคัญ คือ ใบหม่อนจะต้องใช้ใบหม่อนที่ไม่อ่อนเกินไปและไม่แก่เกินไป หรือประมาณห่างจากยอดใบที่ 4-5 เท่านั้น จึงจะได้ใบชาที่มีคุณภาพ และกลิ่นหอม ปัจจุบันพันธุ์ที่ใช้ผลิตชาเขียวใบหม่อนใช้พันธุ์หม่อน บร 69 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่จังหวัดบุรีรัมย์เป็นผู้คิดค้น มีลักษณะใบใหญ่หนามีน้ำหนักมาก ลำต้นแข็งแรงเหมาะกับสภาพดินในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จึงจะได้ใบหม่อนเมื่อนำไปแปรรูปจะมีกลิ่นหอม สีชาสวยงาม
แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
1. สถานที่ผลิต บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านตะโก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์
2. งานจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในอำเภอ/จังหวัด
3. งานจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าต่างจังหวัด
4. ตามงานมหกรรมของหน่วยงานราชการจัด