แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 11 หมู่ที่ 5 ตำบลชุพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
กลุ่มผู้ผลิต กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาลโตนด
สถานที่ผลิต 11 หมู่ที่ 5 ตำบลชุพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
ประธานกลุ่ม นางนิตย์ แก้วดีเลิศ
ประวัติความเป็นมา น้ำตาลแว่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากน้ำตาลโตนด มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ บรรพบุรุษของชาว อำเภอสทิงพระ ได้นำผลผลิตจากต้นตาลโตนด ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในเขตอำเภอสทิงพระ นับเป็นอาชีพหลักที่สำคัญของชาวบ้าน รองจากอาชีพทำนา สมัยก่อนชาวบ้านที่มีอาชีพทำน้ำตาลโตนด จะนำน้ำตาลมาเคี่ยวกลายเป็นน้ำผึ้งเหลวเก็บไว้ แต่บางส่วนก็นำมาเคี่ยวต่อให้ข้นเหนียวจนแห้งกลายเป็นผง เรียกว่า น้ำผึ้งขี้มา หรือบางครั้งกลายเป็นน้ำผึ้งตังเม ใช้สำหรับเป็นขนมหวาน ไว้ถวายพระฉันท์กับน้ำร้อน และเป็นของกินเล่นของเด็ก ๆ การทำน้ำตาลแว่น ได้ทำกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ได้ถ่ายทอดวิธีการทำให้แก่ลูก ๆ หลาน ๆ ทำติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และได้พัฒนามาเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน น้ำตาลแว่นได้รับการยอมรับเป็นสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว (ปี 2546) ของอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์น้ำตาลแว่น เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของอำเภอสทิงพระ เป็นที่รู้จัก ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น และนำภูมิปัญญามาทำเป็นผลิตภัณฑ์ สามารถนำวัตถุดิบน้ำตาลโตนด ซึ่งมีในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า สร้างราคาให้สูงขึ้นจากการจำหน่ายน้ำผึ้งเหลวบี๊ปละ200 – 500 บาท เป็นน้ำตาลแว่นมีราคาถึง 1,000 บาท และเป็นการสร้างงานแก่คนในชุมชนได้นำใบตาลซึ่งเป็นวัสดุที่มีอยู่มาทำเป็น แว่น หรือสานเป็นชะลอม ทำให้เกิดรายได้แก่ชุมชน น้ำตาลแว่น นำมาใช้ประโยชน์ในการรับประทานอาหารได้ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน อาหารคาว ใช้เป็นส่วนประกอบของแกง ต่าง ๆ น้ำพริก อาหารหวาน ใช้เป็นส่วนประกอบของขนม เช่น ขนมโก๋ ขนมจาก ขนมพื้นเมืองต่าง ๆ ของอำเภอสทิงพระ จุดเด่นผลิตภัณฑ์น้ำตาลแว่น 1. เป็นน้ำตาลแว่นที่ปราศจากสิ่งเจือปน 2. ขนาดเล็ก สวยงาม คุณภาพ และปริมาณคงที่ 3. รสชาติคงที่ และหอมน่ารับประทาน 4. มีตราสัญลักษณ์ (ตราดาวราย) 5. สินค้าระดับ 5 ดาว ของปี 2546 6. สามารถเก็บรักษาได้นาน ประมาณ 1 เดือน
มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ OTOP คัดสรร 5 ดาว ปี 2546
ความสัมพันธ์กับชุมชน จากการที่อำเภอสทิงพระ มีต้นตาลโตนดจำนวนมาก วิถีชีวิตของชาวบ้านจะเกี่ยวข้องกับต้นตาลโตนด มาใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นปัจจัย4 สามารถใช้เป็นอาหาร เครื่องแต่งกาย ของประดับตกแต่ง ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค สำหรับน้ำตาลแว่นจัดเป็นปัจจัย4 ประเภทอาหาร และยารักษาโรคในอดีตชาวบ้านตำบลชุมพล บริเวณวัดพะโคะ เป็นกลุ่มแรกที่คิดริเริ่มนำน้ำตาลโตนดมาแปรรูปเป็นน้ำผึ้งขี้หมา และน้ำผึ้งตังเม บางครั้งก็ทำเป็นก้อน ๆ สำหรับไว้กินในช่วงฤดูฝน เป็นของฝากญาติพี่น้องที่ไปอยู่ต่างถิ่น สำหรับถวายพระให้พระเก็บฉันท์กับน้ำร้อนตอนกลางคืน หลังจากพระสวดมนต์เสร็จ ฝีมือ/แรงงาน/วัตถุดิบ คือ ทรัพยากรในการผลิตที่มีอยู่ในชุมชนอย่างแท้จริง ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจึงทำให้คนในชุมชนมีความผูกพันกันเหมือนญาติพี่น้อง
วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1. น้ำตาลแว่น ใช้วัตถุดิบจากน้ำตาลโตนดที่ชาวบ้านปีนไปเก็บจากต้นตาลโตนดชาวบ้านจะเลือก น้ำตาลจากต้นตาลโตนดต้นตัวเมีย จะทำให้ได้น้ำตาลที่สวย เป็นน้ำผึ้งเหลว และแปรรูปเคี่ยวจนข้นกลายเป็นน้ำตาลแว่น โดยนำมาตักใส่แว่น ซึ่งทำมาจากส่วนของใบมาตัดและทำเป็นวง สำหรับตักน้ำตาลที่เคี่ยวจนได้ที่ใส่ลงไป
2. เคี่ยมนำมาใส่ในน้ำตาล เพื่อรักษาสภาพน้ำตาลไม่ให้เปรี้ยวก่อนนำมาเคี่ยว
ขั้นตอนการผลิต การทำน้ำตาลแว่นในอดีต จะนำน้ำตาลโตนดมาเคี่ยวโดยใช้ก้านใบของต้นตาลเป็นเชื้อเพลิงเคี่ยวจนข้นใช้ เวลาประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง จนเหนียวตามที่ต้องการ หรือบางครั้งตักใส่กระบอกไม้ไผ่ ต่อมาพัฒนาเป็นแว่นขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ปัจจุบันการทำน้ำตาลแว่นได้พัฒนาโดยนำน้ำตาลโตนดมาเคี่ยว โดยใช้ฟืนไม้ยางเป็นเชื้อเพลิง และเตาที่เก็บความร้อนดี ประหยัดเชื้อเพลิง เคี่ยวประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง เคี่ยวจนได้ที่ตามต้องการและนำมาหยอดใส่แว่น ปัจจุบันจะทำเป็นแว่นเล็ก ๆ ขนาดเท่าเหรียญ 1 บาท นำมาบรรจุภัณฑ์ใส่กล่อง ชะลอม หรือถุง ตามความต้องการของตลาด
เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต
1. ใช้น้ำผึ้งเหลวที่มีความเข้มข้น และค่อนข้างใหม่ มาใช้ในการผลิต
2. ใช้ไฟอ่อน ๆ ในการเคี่ยวน้ำผึ้ง
3. เน้นความสะอาดและรสชาติให้คงที่