เมื่อ พ.ศ. 2529 พระอาจารย์ชัย ได้เดินทางมาเยี่ยมโยมแม่ ซึ่งตอนนั้นย้ายมาอยู่บ้านบางเหรียง เมื่อเสร็จธุระแล้วท่านกลับไปอยู่วัดถ้ำเสือเขาแก้ว ไม่นานก็ได้ข่าวว่าที่บ้านบางเหรียงมีคนแก่คนหนึ่งเสียชีวิต
วัดราษฎร์อุปถัมภ์ เป็นวัดที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของอำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เดิมทีชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดบางเหรียง" ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอทับปุดและถนนเพชรเกษม ประมาณ 11 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางใช้เส้นทางถนนสายทับปุด-อ.พนม จ.สุราษฎร์ฯ
วัดราษฎร์อุปถัมภ์ ได้ทำการก่อตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2453 ผู้เฒ่าได้เล่าขานกันว่าเดิมทีนั้นวัดบางเหรียงตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของคลองมะรุ่ย ณ บริเวณเชิงเขาที่ประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์พุทธรรมบันลือในปัจจุบัน แต่เนื่องด้วยการเดินทางไม่สะดวกต้องลุยน้ำข้ามคลอง ประกอบกับที่ตั้งเดิมถูกน้ำกัดเซาะยากแก่การบูรณะซ่อมแซม "พ่อท่านเกตุ" ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสมัยนั้นและชาวบ้าน ได้ร่วมกันย้ายวัดมาตั้ง ณ สถานที่ใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 6 ไร่เศษ และเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน
ต่อมาปี พ.ศ. 2529 พระอาจารย์ชัย (พระครูไพศาลพัฒนานุยุต ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์อุปถัมภ์ในสมัยนั้นได้มีการพัฒนาวัดบางเหรียงเจริญขึ้นในทุกด้าน เป็นผลให้พุทธศาสนิกชนทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาร่วมปฏิบัติศาสนกิจเป็นจำนวนมาก ยังวัดให้มีความสมบูรณ์ด้วยศาสนวัตถุให้ประจักอยู่ปัจจุบัน
เล่ากันว่า เมื่อ พ.ศ. 2529 พระอาจารย์ชัย ได้เดินทางมาเยี่ยมโยมแม่ ซึ่งตอนนั้นย้ายมาอยู่บ้านบางเหรียง เมื่อเสร็จธุระแล้วท่านกลับไปอยู่วัดถ้ำเสือเขาแก้ว ไม่นานก็ได้ข่าวว่าที่บ้านบางเหรียงมีคนแก่คนหนึ่งเสียชีวิต ไม่มีญาติพี่น้องจัดการพิธีศพให้ ท่านกับญาติโยมที่สนิทสนมกันจึงเดินทางมาช่วยอนุเคราะห์ และได้จัดพิธีศพให้ที่วัดบางเหรียง ขณะนั้นวัดบางเหรียงยังเป็นวัดเล็ก ๆ มีเนื้อที่น้อยและรกชัฏไปด้วยหญ้าคา วัดอยู่ในสภาพที่เก่าคร่ำคร่าชำรุดทรุดโทรมมากเหมือนเป็นวัดร้าง วัวควายของชาวบ้านเข้าไปอาศัยหากิน ชาวบ้านจำนวนหนึ่งจึงนิมนต์ท่านให้อยู่จำพรรษาที่นี่สักระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีพระมาอยู่ประจำ แต่ความที่ท่านเป็นพระธุดงค์ ชอบที่จะอยู่ป่า ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพล ไม่เคยอยู่ประจำที่ไหนและไม่คิดจะดำรงตำแหน่งใด ๆ ทางคณะสงฆ์ จึงบอกชาวบ้านไปว่าจะกลับไปคิดดูก่อน
หลังจากจัดงานฌาปณะกิจศพนั้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ท่านก็กลับไปวัดถ้ำเสื้อเขาแก้ว อีกครั้ง เมื่อพิจารณาเรื่องที่ชาวบ้านขอร้องมาและนึกถึงโยมแม่ ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับวัดบางเหรียง ว่าท่านชรามากแล้วและเจ็บป่วยอยู่เสมอ ท่านเองก็จากมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ไม่มีโอกาสได้ปรนนิบัติรับใช้ท่านเหมือนลูกคนอื่น ๆ ควรอยู่ดูแลท่านสัก 1 พรรษา ในที่สุดท่านจึงตอบตกลง ครั้งนั้นมีพระภิกษุ สามเณร ตามไปอยู่ด้วย 10 รูป ถึงวัดบางเหรียง ก่อนเข้าพรรษาเพียงวันเดียว “วัดบางเหรียง” หรือ “วัดราษฎร์อุปถัมภ์” เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2453 คิดว่าชาวบ้านคงสร้างกันเอง เพราะมีเนื้อที่น้อยและมีเสนาสนะไม่มาก สร้างแบบง่าย ๆ สภาพโดยทั่วไปเป็นวัดที่ทรุดโทรมเต็มที
วัดราษฎร์อุปถัมภ์ (วัดบางเหรียง) นับตั้งแต่พุทธศักราช 2529 ซึ่ง พระวิสิฐพัฒนวิธาน (อาจารย์ชัย) ได้เข้ามาพัฒนา ก็มีความเจริญขึ้นทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปการ ด้านศึกษา และงานด้านสาธารณะประโยชน์ วัดราษฎร์อุปถัมภ์ (วัดบางเหรียง) จึงเป็นที่รู้จักกันในพุทธศาสนิกชนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ