ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.ลำปางเป็นเมืองเก่ามี่มีความสำคัญของอาณาจักรล้านนา จึงต้องมีเสาหลักเมืองเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างเมือง ซื่งในปัจจุบันศาลหลักเมืองเป็นที่เก็บเสาหลักเมืองโบราณจากที่ต่างๆไว้ และยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธื์
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง เป็นเมืองเก่ามี่มีความสำคัญของอาณาจักรล้านนา จึงต้องมีเสาหลักเมืองเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างเมือง ซื่งในปัจจุบันศาลหลักเมืองเป็นที่เก็บเสาหลักเมืองโบราณจากที่ต่างๆไว้ และยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธื์ของชาวจังหวัดลำปาง
โดยภายในศาลหลักเมือง จะมีหลักเมืองอยู่ 3 ต้น แต่ละต้นเป็นเสาไม้เนื้อแข็งขนาดหนึ่งคนโอบถากปลายแหลม ประดิษฐานอยู่ตามมุมต่างๆ ซื่งทั้งสามต้นจะมีประวัติความเป็มาต่างกัน ดังนี้
เสาหลักที่ 1 นำมาจากวัดปงสนุก สร้างขึ้นประมาณ ปี พ.ศ. 2400 ในสมัยเจ้าวรญาณรังษี
เสาหลักที่ 2 สร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2416 สมัยพระเจ้าพรหมภิพงษ์ธาดา
เสาหลักที่ 3 นำมาจากบรเวณตลาดราชวงศ์ ข้างคุ้มราชวงศ์เก่า(ในอดีตบรเวณนี้เป็นท่าน้ำ) สร้างขึ้น ในปี พ.ศ. 2429 สมัยเจ้านรนันท์ไชยชวลิต
เหตุผลที่เสาหลักทั้งสามนี้มาประดิษฐาน อยู่ด้วยกัน เพราะเจ้าบุญยวาทย์วงศมานิตย์เจ้าเมืองลำปาง ได้สร้างศาลาว่าการจังหวัด ขึ้นในที่ดินที่เรียกว่า หอคำ เมื่อแล้วเสร็จจึงได้อัญเชิญเสาหลักเมืองทั้งสามมาประดิษฐานอยู่ด้วยกัน ในปี พ.ศ. 2440 และในปี พ.ศ. 2511 ได้มีการสร้างมณฑปครอบเสาหลักเมืองไว้
ใกล้เคียงกันยังมี พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 49 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ในอาคารทรงไทยจัตุรมุข ใกล้กับศาลหลักเมือง ซื่งในหลวงทรงเททองหล่อด้วยพระองค์เอง ในปี พ.ศ. 2509 หลังจากผ่านการปลุกเสกเบิกพระเนตรแล้ว จึงพระราชทานไปประดิษฐานยังทิศทั้งสี่ของประเทศไทย
โดยชาวจังหวัดลำปางจะเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อดำ เพราะสร้างจากโลหะผสมแล้วรมดำทั้งองค์ เหตุผลที่ไม่มีการปิดทองเหมือนพระพุทธรูปองค์อื่นๆเพราะในหลวงทรงหล่อขึ้น เพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหรือพระองค์ดำ เนื่องจากพระองค์ท่านมีพระฉวีดำคล้ำ