ในปัจจุบันขนม กระยาสารท มีการแข่งขันกันมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะในปัจจุบันมีคนนิยมรับประทานขนมกระยาสารทมากขึ้น เนื่องจากในยุคของคนปัจจุบันนิยมมารับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
สถานที่ผลิต บ้านเลขที่ 118 หมู่6 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13260 โทร 035-359997 หรือ 081-2747862
ประวัติความเป็นมา ในปัจจุบันขนม กระยาสารท มีการแข่งขันกันมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะในปัจจุบันมีคนนิยมรับประทานขนมกระยาสารทมากขึ้น เนื่องจากในยุคของคนปัจจุบันนิยมมารับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และแต่ละร้านคู่แข่งขันต่างก็มีรูปลักษณ์ และการบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยและสวยงามต่างจากเดิมเพื่อเป็นการชักจูงผู้ บริโภคให้มีความสนใจมากขึ้น มีการแข่งขันในปัจจุบันมีสูงขึ้นเพราะต่างร้านก็ต่างหาวิธีที่จะดึงดูดผู้ บริโภค และการเพิ่มวัตถุดิบส่วนประกอบใหม่เข้าไปเพื่อที่ขนม กระยาสารทจะได้มีรสชาติที่หลากหลายให้เลือกซื้อ แต่ก็มีปัญหาตามมาคือ ลูกค้าบางรายเคยชินกับการรับประทานรสชาติเดิมๆ ที่มีแต่ส่วนผสมของถั่ว งา ข้าวเม่า ข้าวตอก ในการปรับปรุงใหม่ซึ่งทางร้านมีการเพิ่ม มะม่วงหิมพานต์ ลูกเกด และงาดำ เข้าไป บางรายไม่ค่อยให้ความสนใจสินค้าใหม่ที่เราทำ เพราะความที่เคยชินกับรสชาติดั่งเดิมมากกว่าเลยไม่กล้าเลือกซื้อเลือกลองรับ ประทานรสใหม่ของทางร้านกลัวว่าจะไม่เหมือนกับรสดั่งเดิม ในบางครั้งก็ต้องมีการดึงดูดความสนในของตัวลูกค้าให้หันมาสนใจสินค้าตัวใหม่ โดยมีการแนะนำให้ลูกค้า และมีการแถมให้แก่ลูกค้าทดลองชิมเพื่อเป็นการให้ลูกค้าหมั่นใจในสินค้าตัว ใหม่ว่ามีรสชาติที่ไม่แตกต่างไปจากเดิมเลย เพียงแต่มีการเพิ่มส่วนผสมอื่นลงไปเพื่อเพิ่มความแตกต่างจากร้านอื่นก็เท่า นั้นเอง และเป็นการเปิดช่องทางการเลือกซื้อสำหรับผู้บริโภคให้มีหลายทางเลือกไปด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อร้าน กระยาสารทมรดกไทย
เศรษฐกิจปัจจุบันต้องพบกับปัญหาของการแข่งขันกันสูงขึ้นเพราะต่างฝ่าย ต่างก็ต้องการแข่งขันกันเพื่อความมั่นคง ซึ่งส่งผลกระทบในเรื่องของภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อ และการตกงานของคนเป็นจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจตกต่ำลง ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคมีการตอบสนองต่อการซื้อลดลงไปจากเดิม ในสภาพที่มีการแข่งขันกันอย่างไม่หยุดยั้งของการค้าจึงต้องทำให้ ทางร้านกระยาสารทมรดกไทย จึงต้องมีการปรับตัวให้ทันอยู่ตลอดเวลาเพื่อพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงใน ปัจจุบัน เพื่อที่จะได้สู่กับคู่แข่งขันรายอื่นได้ บางร้านที่เป็นคู่แข่งขันของเรามีการจูงใจลูกค้าในการเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น แต่ทางร้านขนม กระยาสารทมรดกไทย ของเราไม่ทำเช่นนั้นทางเราจะมีวิธีการที่ต่างออกไป คือ มีราคาขาย ณ ราคาระดับเดิมที่ผู้บริโภคเคยรับประทาน แต่เราจะมีการลดปริมาณของขนมลงเล็กน้อย แต่ยังคงราคาที่เท่าเดิม
เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุดทางร้านขนม กระยาสารทมรดกไทย ของเราเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายขายตรงให้กับลูกค้าทุกราย และมุ่งขายสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อทดแทนความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยอาศัยลูกค้าประจำที่เป็นลูกค้ามาแต่ดั่งแต่เดิม และรวมทั้งลูกค้าที่เป็นขาจร เพื่อสร้างความแตกต่างและเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีทางเลือกในการซื้อมากขึ้น
ลักษณะที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ กระยาสารทมรดกไทย จะเป็นส่วนของวัตถุดิบ เช่น ถั่ว ต้องหาเม็ดเสียทิ้งทั้งหมด ข้าวเม่า เมื่อคั่วแล้วต้องมาเก็บเม็ดดำหรือเม็ดที่ไหม้ออก แล้วมาขัดให้สะอาด งาคั่วต้องคั่วให้เหลืองแบบให้น่ารับประทานถ้ามีของเสียก็จะนำพาให้สุขภาพ ของลูกค้าเป็นอันตราย ลักษณะเด่นของกระยาสารทจะต้องคั่วให้สะอาด กรอบอร่อยไม่หวานมากเกินไป จะทำให้ผลิตภัณฑ์บางตัวนั้นสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน
มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ 1. ม ผ ช. 709/2547 2. อ ย. เลขที่ 14-2-05745 3. OTOP คัดสรร 4 ดาว
วัตถุดิบที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์
1 ถั่วลิสง
2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์
3. งาขาวงาดำ
4. ข้าวเม่า, ข้าวตอก
5.น้ำตาลปีบ
6.น้ำอ้อย
7.มะนาว
8.แบะแซ
9.น้ำกะทิ
เครื่องมือที่ใช้ในอุตสาหกรรม
1.กระทะ
2.เครื่องโม่ถั่ว เครื่องโม่ ถั่วโม่งา
3.เครื่องกะเทาะเปลือกถั่ว
4.เครื่องกวน
5.เครื่องแพ็ค
6. เครื่องชั่ง
ขั้นตอนการผลิต
1. นำส่วนผสม เช่น น้ำกะทิใส่ลงไปในกระทะใบบัว เปิดไฟแรงพอปานกลาง จากนั้นคนให้น้ำกะทินั้นเข้ากัน
2. นำน้ำตาลปี๊บและน้ำอ้อยที่ผสมกันไว้เรียบร้อยแล้วมาใส่ลงในกระทะคนให้เข้า กันจนกว่าน้ำตาลปี๊บจะละลายจนหมดประมาณ 5 นาที แล้วเคี้ยวน้ำกะทิและน้ำตาลปี๊บให้เข้ากันทิ้งไว้ในกระทะประมาณ หนึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะให้น้ำกะทิที่อยู่ในกระทะนั้นเดือดได้ที่
3. รอจนน้ำตาลปี๊บในกระทะเดือดแล้ว เราก็นำแบะแซมาใส่ลงไปในกระทะ หลังจากนั้นต้องคนให้แบะแซละลายจนหมดและคนให้เข้ากัน ประมาณ 20 นาที 4. จากนั้นเมื่อแบะแซในกระทะเหนียวและคนจนได้ที่แล้วก็นำข้าวตอกมาใส่ลงไปในกระทะ และคนข้าวตอกให้เข้ากันกับแบะแซ ประมาณ 10 นาที
5. พอข้าวตอกเกาะตัวเป็นก้อนแล้ว เราก็นำข้าวตอกหยดในน้ำดูว่าใช้ได้พอหรือยัง เมื่อใช้ได้แล้ว ก็นำวัตถุดิบทั้งหมดมาใส่ลงไปในกระทะ เช่น งาขาวหรืองาดำ ข้าวเม่า ถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แล้วก็คนให้เข้ากันในกระทะประมาณ 3-4 รอบ กระทะ
6. จากนั้นใช้พายที่คนตักขนมกระยา สารทมาใส่กระด้ง 2 กระด้ง และนำกระยาสารทใส่ถุงเพื่อนำไปชั่งกิโลตามขนาด และเริ่มการทำแผ่นทันที
7. เมื่อขนมกระยาสารทแห้งพอสมควรแล้วจึงนำไปแพ็คปากถุงให้เรียบร้อย และติดสติ๊กเกอร์ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เคล็ดลับในการผลิต วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตทุกชนิดมีการคัดสรรคุณภาพเป็นอย่างดี ทั้งเม็ดเสีย เม็ดดำ และถั่วที่เป็นเชื้อรา ส่วนน้ำตาลปี๊บและน้ำอ้อยนั้นทางร้านของเราจะมีเจ้าประจำที่ได้จากของแท้ และที่สำคัญไม่มีสิ่งเจือปน
แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
1. ร้านเตริกเฮาส์ ตลาดเจ้าพรม
2. ห้างแอมโปรมอลล์
3.ฟูดแลนด์ ทุกสาขา
4. ร้านค้าทั่วจังหวัดพระนครศรีอยุธยา