แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ที่ทำการกลุ่มจักสานใยพืชกล้วยบ้านหัวควาย หมู่ที่ 9 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
กลุ่มผู้ผลิต กลุ่มจักสานใยพืชกล้วยบ้านหัวควาย
สถานที่ผลิต ที่ทำการกลุ่มจักสานใยพืชกล้วยบ้านหัวควาย หมู่ที่ 9 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ประธานกลุ่ม นางเปียน จินดาวงศ์
ประวัติความเป็นมา จากสภาพพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การเพาะปลูกคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพการเกษตร ทำนา ทำสวน เลี้ยงสัตว์พื้นที่ส่วนหนึ่งคนนิยมปลูกกล้วยตานี (ภาษาใต้เรียกว่ากล้วยพังงา)ซึ่งเริ่มปลูกกล้วยตานี ซึ่งคนในชุมชนเกิดมาก็เห็นกล้วยตานีแล้ว ในบริเวณที่ดินที่ตั้งบ้านเรือนอยู่เพราะได้ใช้ประโยชน์จากต้นกล้วยทุกอย่าง เช่น
- ใบกล้วย ไม่ว่าจะเป็นใบสดหรือแห้งใช้ทำเป็นภาชนะบรรจุอาหารโดยทำเป็นกระทงและเป็นวัสดุประกอบในการร้อยดอกไม้
- ยางกล้วย เป็นสีย้อมด้ายทอผ้าให้มีสีน้ำตาลสีไม่ตก มีความทนทาน
- กาบกล้วย ทั้งกาบและลำต้นนิยมนำมาแกะสลักที่เรียกว่าแทงหยวก หรือกาบนำมากรีดเป็นเส้น ๆ ตากให้แห้ง ใช้เป็นเชือก กล้วย มีความแข็งแรงทนทานมาก
จากสารพัดประโยชน์ของต้นกล้วยที่ทำให้ผู้ปลูกได้รับประโยชน์ ยังสามารถขายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวไม่ว่าจะเป็นผล หรือว่าเชือกกล้วย นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษต่อมาเมื่อชุมชนมีความเจริญขึ้น ทั้งการรับรู้ข่าวสาร ข้อมูล การคมนาคม ฯลฯ ในปี 2527ส่วนราชการโดยนายบุญล้อม แสงเกื้อ พัฒนากร ได้เข้าไปศึกษาที่จะรวมกลุ่มเพื่อเอาเชือกกล้วยซึ่งเป็นวัตถุดิบอยู่ใน พื้นที่มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ชาวบ้านซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเห็นว่าการผลิตดังกล่าว มีวัตถุดิบอยู่ในพื้นที่ โดยไม่ต้องซื้อจึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะรวมกลุ่มเพื่อนำวัตถุดิบในท้อง ถิ่นมาดำเนินกิจกรรมเพื่อให้สมาชิกมีอาชีพเสริม และมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับนำไปใช้จ่ายในครอบครัวต่อไป
เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ประสานวิทยากรจากกรมส่งเสริม อุตสาหกรรมเพื่อมาสอนเทคนิค วิธีการผลิตและรูปแบบในการทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้กับสมาชิกกลุ่ม มีสมาชิกเริ่มแรก 15 คนโดยมีคณะกรรมการชุดแรก ประกอบด้วย 1. นางเปียน จินดาวงศ์ ประธาน 2. นางอิ้น แสนทวี รองประธาน 3. นางยุภาภรณ์ ทองมุณี เลขานุการ 4. นางเฉลียว กิตโร เหรัญญิก 5. นางหน่าย ทองมุณี ประชาสัมพันธ์
โดยใช้อาคารอเนกประสงค์ของวัดเป็นที่ทำการกลุ่มชั่วคราวแบบแรกเป็น กระเป๋า ไม่มีฝา ทำ 2 ใบ นำไปถวายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ การดำเนินการในระยะแรกยังไม่เป็นที่ยอมรับในตัวของผลิตภัณฑ์ ต่อมา นางเปียน จินดาวงศ์ซึ่งเป็นประธานได้เกิดแรงบันดาลใจ ว่า เนื่องจากมีวัตถุดิบอยู่ในพื้นที่บวกกับความอุตสาหะ มีใจรัก และความสามารถในการจักสานรูปแบบต่าง ๆโดยการเรียนรู้จากวิทยากรบวกกับภูมิปัญญา ความเสียสละ ตั้งใจที่จะรวมกลุ่มทำให้คนในชุมชนมีความสนใจ สมาชิกเห็นความสำคัญในการรวมกลุ่มกอปรกับต้นทุนวัตถุดิบต่ำ และแรงงานก็ใช้เวลาว่างจากการประกอบอาชีพหลักทำให้สมาชิกมีความอดทน ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับ จากแนวคิด ภูมิปัญญากลายเป็นผลิตภัณฑ์ มีการปรับตัว ทำซ้ำ ผลิตซ้ำ ให้สวยงาม ชุมชนเริ่มสนใจชมชอบในผลิตภัณฑ์ จากการบูรณาการการทำงานจากทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ เอกชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งด้านการผลิตการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การตลาด การประชาสัมพันธ์ แหล่งทุน การบริหารจัดการ และสร้างที่ทำการกลุ่มทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งภายในและต่าง ประเทศ ความประณีตสวยงาม ทนทาน ทำให้กลุ่มมีชื่อเสียงในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีกลุ่มมาศึกษาดูงานอย่างต่อ เนื่อง การผลิตขยายตัว สมาชิกกลุ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 22 คนนับได้ว่าการดำเนินงานกลุ่มอาชีพจักสานใยพืชกล้วยประสบความสำเร็จในการ พัฒนาอาชีพสร้างรายได้ให้กับสมาชิก เฉลี่ยประมาณ คนละ 3,000 – 8,000 บาท/คน/เดือน นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาไว้ และสืบทอดภูมิปัญญาของท้องถิ่นให้คงอยู่ตลอดไป
เอกลักษณ์/จุดเด่นผลิตภัณฑ์ ต้นกล้วยตานี ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีมากอยู่ในพื้นที่ผ่านกระบวนการผลิตทางธรรมชาติผสมผสาน กับภูมิปัญญาจากวิถีชีวิต ความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุมชนผลิตภัณฑ์ทุกแบบที่ผลิตขึ้นมา เน้นธรรมชาติ เป็นหลัก ฝีมือประณีต และกระบวนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ
- มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
- ผลิตภัณฑ์ 3 ดาวจากการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี 2547
ความสัมพันธ์กับชุมชน การเติบโตและความเข้มแข็งของกลุ่มอาชีพจักสานใยพืชกล้วยบ้านหัวควายเกิด ขึ้นจากการที่องค์กร รวมกลุ่มสมาชิกบนพื้นฐานภูมิปัญญาเดิมบนฐานกิจกรรมที่คุ้นเคยมาแล้วเป็นทาง ทางสังคมและวัฒนธรรมที่เป็นรากฐานสำคัญของการรวมกลุ่มและการสร้างความเข้ม แข็งให้แก่กลุ่ม ในการจักสานใยพืชกล้วยนอกจากมีเอกลักษณ์จุดเด่น สวย ไม่ย้อมสีแล้ว ฝีมือยังประณีต คงทน ราคาย่อมเยา วัตถุดิบมีในพื้นที่รูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายแล้ว ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนทั้งในด้านการประกอบอาชีพ คือการทำสวนส่วนหนึ่งมีการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการทำอาชีพเสริม พร้อมกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ลำคลอง ต้นไม้ ต้นกล้วยซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์
จากการรวมกลุ่มอาชีพจักสานทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆทั้งในเรื่องของการออมเงินในรูปของกลุ่ม โดยร่วมเป็นสมาชิกธนาคารชีวิตสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว และชุมชน จากรายได้ของกลุ่มและการจัดสวัสดิการของธนาคารชีวิต เช่น การช่วยเหลืองานศพ งานทอดกฐินค่ารักษาพยาบาล ทุนการศึกษาเด็กเล็ก การกู้ยืม และกิจกรรมการพัฒนาของชุมชนที่สำคัญทำให้ชุมชนมีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นมี ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่อยู่คู่กับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในชุมชนอย่างยั่งยืน
วัตถุดิบและส่วนประกอบ - ต้นกล้วย - มีดปลายแหลม - เครื่องอบ - กำมะถัน - เครื่องรีด - แลกเกอร์
ขั้นตอนการผลิต
1. การตัดใช้ต้นกล้วยที่ตัดเครือแล้ว ตัดมาทั้งต้น และตัดส่วนปลายจากโคนของก้านใบลงมาประมาณ 15 เซนติเมตรเหลือไว้เฉพาะลำต้น
2. การลอกลอกเอากาบของลำต้นข้างนอก ซึ่งมีสีเขียวทิ้งไว้ประมาณ 2-3 กาบ จนถึงกาบชั้นในที่มีสีขาวแล้วลอกออกทีละกาบจนถึงแกน
3. การกรีด นำเอากาบที่มีสีขาวไปกรีดเป็นเส้นๆ ขนาดกว้างประมาณ 1 นิ้ว ด้วยมีดปลายแหลมการกรีดให้กรีดตามด้านยาวของกาบกล้วยเป็นเส้นตรงตลอดออกเป็น เส้น ๆ
4. การตาก เมื่อกรีดออกเป็นเส้น ๆแล้วนำเส้นกาบกล้วยไปแขวนตากแดดบนราวหรือตากกับพื้นที่สะอาดแห้งสนิทเชือก กล้วยที่ตากแห้งแล้วจะมีสีค่อนข้างขาว
5. การอบถ้าสีของเชือกกล้วยไม่ขาว คือเป็นสีน้ำตาล จะต้องใช้วิธีการฟอกขาว โดยการอบกำมะถันก็จะได้เชือกกล้วยสีขาวขึ้น การอบ อบในตู้ไม้ทึบอากาศภายนอกผ่านไม่ได้ตู้อบนี้สามารถทำขึ้นเองได้ ข้างในทำเป็นไม้โปร่ง 2-3 ชั้น เพื่อใช้วางเส้นเชือกกล้วยในเวลาอบโดยใช้ไม้ระแนงตีห่างๆ หรือจะใช้ลวดตะแกรงแทนก็ได้หรือใช้อบในโอ่งเวลาอบนำเส้นเชือกวางหรือแขวนไว้ โปร่ง ๆ อย่าให้แน่น แล้วเอาถ่านเผาไฟให้แดงจัดใส่เตาขนาดเล็กตั้งไว้ใต้ชั้นที่ต่ำสุด แล้วโรยกำมะถันเป็นผงลงไปบนก้อนถ่านก็จะเกิดเป็นควันสีขาวอบไปทั่วทั้งตู้ หรือภายในโอ่ง แล้วรีบปิดตู้อบหรือฝาโอ่งทันที อบไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงก้านกล้วยหรือเชือกกล้วยก็จะมีสีขาวขึ้น
6. การรีดและสานนำเชือกกล้วยที่อบแล้วมารีดด้วยเครื่องรีดและนำมาสานเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆตามที่ต้องการ เสร็จแล้วนำไปตากแดด
7. ทาแลกเกอร์ เพื่อความสวยงามและคงทนนำไปตากแดดอีกครั้งจะได้ผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม ประณีต คงทนและที่สำคัญเป็นผลิตภัณฑ์จากคนในชุมชนและใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนเอง
เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต ใช้เชือกกล้วยของกล้วยตานีเนื่องจากมีความเหนียวและคงทน