ประเพณีชักกะเย่อเกวียนพระบาท จัดขึ้นในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ณ วัดตะปอนใหญ่ อำเภอขลุง เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี มีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายยุ และการแข่งขันชักกะเย่อเกวียนพระบาท
ประเพณีชักเย่อเกวียนพระบาท เป็นประเพณีดั้งเดิมเป็นของหมู่บ้านตะปอนน้อย ต.ตะปอน อ.ขลุง มีการทำพระบาทจำลองด้วยผ้ากว้าง 5 ศอก ยาว 21 ศอก ประกอบไปด้วยรอยพระบาท 4 รอย (รอยที่ 1 เป็นรอยของ "พระกุตสันโธ" รอยที่ 2 เล็กลงมาเป็นรอยของ "พระโคนาดม" รอยที่ 3 เป็นรอยของ "พระกัสสปะ" และรอยที่ 4 เป็นรอยเล็กที่สุดเป็นรอยของ "พระพุทธโคดม"(พระพุทธเจ้า)) ทั้งนี้รอยพระบาท 4 รอย ซ้อนกันอยู่บนผ้าผืนเดียว(ผ้านำมาจากวัดช้างไห้ จ.ปัตตานี) คนในสมัยก่อนเชื่อว่ารอยพระบาทนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ ปีใดเกิดภัยธรรมชาติ ข้าวยากหมากแพงหรือมีโรคระบาดก็จะนำพระบาทนี้ใส่เกวียนประดับตกแต่งไปแห่แหน มีการตีกลอง ฆ้อง โหม่ง ดังสนั่นไปทั้งหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านเห็นขบวนแห่ผ่านมาก็ยกมือสาธุด้วยความปิติยินดี นำพวงมาลัย ดอกไม้ ข้าวสารมาถวาย ภายหลังจากที่มีพิธีแห่ปัญหาที่ชาวบ้านประสบก็บรรเทาเบาบางลง ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธารอยพระพุทธบาทกันมากจึงให้มีการสืบทอดประเพณีติดต่อกันมากทุกปี ภายหลังเปลี่ยนจากการแห่เกวียนพระบาทมาเป็นการชักเย่อแทน โดยถือเอาวันสำคัญคือหลังวันสงกรานต์ประมาณ วันที่ 15 เมษายนของทุกปี แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ชาย-หญิง อยู่คนละข้าง นำเชือกผูกติดกับเกวียนขณะที่ 2 ฝ่ายออกแรงดึงเชือก คนตีกลองที่อยู่บนเกวียนจะตีกลองรัวจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ใครชนะก็ถือว่าลากพระบาทได้ ฝ่ายแพ้ก็จะขอแก้ลำเป็นที่สนุกสนานมาก หลังจากวันสงกรานต์ชาวบ้านจะนำรอยพระบาทไปบำเพ็ญตามทางแยกเข้าหมู่บ้านต่างๆ แห่งละ 1-2 วัน นับตั้งแต่หมู่บ้านตะปอนน้อยไปจนถึงหมู่บ้านหนองเสม็ด เพื่อเป็นการฉลองพระบาทหลังสวดพุทธมนต์ ประชาชนจะนำเกวียนที่มีรอยพระบาทนั้นมาชักเย่อ รุ่งขึ้นเช้าจะมีการทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์เป็นอันเสร็จพิธี