วังปลาวัดข่อย เป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีปลาอยู่เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่สมัยพระครูสุกิจวิชาญ (หลวงพ่อเข็ม) เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 พระครูสรกิจจาทรเป็นเจ้าอาวาสได้ปรับปรุงสถานที่และร่วมกับสำนักงานประมง
วังปลาวัดข่อย มีปลาอยู่เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่สมัยพระครูสุกิจวิชาญ (หลวงพ่อเข็ม) เป็นเจ้าอาวาสซึ่งเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 พระครูสรกิจจาทรเป็นเจ้าอาวาสได้ปรับปรุงสถานที่และร่วมกับสำนักงานประมง อำเภอโพธิ์ทองประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษามิให้ปลาถูกรบกวน ปัจจุบันมีปลานานาชนิดอาศัยอยู่รวมกันไม่ต่ำกว่า 50,000 ตัวเช่น ปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาเทโพ ปลาแรด ปลาบึก ฯลฯ ทางวัดมีอาหารปลาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มไว้บริการ
ภายในวัดข่อยยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ ศาลาการเปรียญไม้สัก ทรงไทยโบราณเสา 8 เหลี่ยม ใต้ถุนศาลาการเปรียญเป็นที่เก็บของเก่าประเภทต่าง ๆ เช่น จากจีน มีเรือประเภทต่าง ๆ เช่น เรือบด เรือแจว เรือสัมปั้นและเรือประทุน มีเครื่องมือเครื่องใช้รวมทั้งอุปกรณ์ในการทำนาได้แก่ เกวียน ล้อ คันไถ อุปกรณ์เครื่องมือการจับสัตว์น้ำ ไซดักปลา นอกจากนี้ยังมีมณฑป วิหาร เจดีย์ พระอุโบสถ กุฏิ หอสวดมนต์ ซากโบราณสถานของห้องเรียนโบราณ และยังมีของเก่าที่เก็บรักษาไว้เช่น ตะเกียงโบราณจากกรุงวอชิงตัน นาฬิกาโบราณจากปารีสและตู้พระไตรปิฎกไม้สักสมัยรัชกาลที่ 5 จากจีนหรือเปลกล่อมลูกแบบโบราณ
ชาวบ้านยังมีการจัดตั้งศูนย์ผลิตข้าว ซ้อมมือขึ้นเป็นสหกรณ์เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จัดแสดง เรือโบราณประเภทต่าง ๆ เช่น เรือบด เรือแจว และยังมีอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพของชาวนา เช่น ครก โม่ข้าว กระด้ง ฯลฯ อันแสดงถึงวิถีชีวิตชาวไทยภาคกลางเป็นอย่างดี
การเดินทางไปวังปลาวัดข่อย วังปลาวัดข่อย อยู่บริเวณแม่น้ำน้อยหน้าวัดข่อย หมู่ที่ 1 ตำบลโพธิ์รังนก อยู่ห่างจากจังหวัดอ่างทอง ประมาณ 12 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ ทางหลวงหมายเลข 3151 กิโลเมตรที่ 27–28 ก็จะพบป้ายวังปลาวัดข่อย จากนั้นเลี้ยวขวาลัดเส้นทางคลองส่งน้ำชลประทานไปอีกประมาณ 2.3 กิโลเมตร